เมื่อเร็วๆ นี้ในสวนของพิพิธภัณฑ์ศิลปะทาเต้ในลอนดอน (Tate Modern) มีงานศิลปะติดตั้งขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น งานศิลปะนี้ดูเหมือนประติมากรสีขาวเท่านั้นจากระยะไกล แต่เมื่อเข้าไปใกล้ขึ้นจึงพบว่าภายในเต็มไปด้วยสายพันธุ์สัตว์ที่ละเอียดอ่อน มองขึ้นไปดู ก็เหมือนสัตว์ทั้งหลายกำลังบินเหนือหัวคุณ มีผลลัพธ์ที่ทำให้คนประทับใจ!
ผลงานที่ยอดเยี่ยมและแสนวิจิตรนี้เป็นผลงานของศิลปินและนักออกแบบเวทีชื่อดังจากอังกฤษ Es Devlin ถ้าคุณคุ้นเคยกับวงการแฟชั่นนานาชาติหรือดนตรียุโรป-อเมริกา คุณคงไม่ควรมองข้ามชื่อนี้ เพราะเธอ曾ออกแบบเวทีให้กับศิลปินชั้นนำอย่าง Beyoncé, Lady Gaga, Kanye West, Adele, Rihanna และมีความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Louis Vuitton, Chanel อย่างยาวนาน ไมว่าจะเป็นในงานแฟชั่นโชว์หรือบนเวทีการแสดง, เธอได้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นคลาสสิกทางสายตาไว้มากมาย
นอกจากการมีกิจกรรมในวงการแฟชั่น Es Devlin ยังให้ความสนใจต่อประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ครั้งนี้เธอร่วมมือกับ Cartier ในการสร้างงานศิลปะแสงสว่าง “Come Home Again” ในสวนของพิพิธภัณฑ์แห่งแตต ที่ลอนดอน งานศิลปะมีรูปร่างโค้งทรงกลมเหมือนโบสถ์แม่ของเซนต์ พอล ซึ่งภูมิใจในการวาดภาพของ 243 ชนิดของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรายชื่อการปกครองชนิดที่อยู่ในอันตราย รวมถึงผีเสื้อ นก แมลง ดอกไม้ ปลา ฯลฯ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
源於 Es Devlin ในพื้นฐานทางวรรณกรรม ศิลปะ และการออกแบบที่เข้มงวด ผลงานครั้งนี้รวมเอาแสง ดนตรี และข้อมูลทางภาษาเข้าด้วยกัน ศิลปินสร้างสรรค์สัตว์หายากทุกชนิดด้วยดินสอบางๆ ที่มีความละเอียดอ่อน หลังค่ำ งานศิลปะจะส่องแสงอย่างอ่อนๆ เหมือนเป็นป้อมไฟ เรียกร้องสัตว์จากระยะไกลให้กลับบ้าน ศิลปินเชิญชวนผู้ชมเข้ามาในที่พักอาศัยนี้ เพื่อปกป้องการเจริญเติบโตของสัตว์ทุกชนิดด้วยกัน
นอกจากนี้ศิลปินยังจัดให้วงร้องเพลงท้องถิ่นแสดงในประติมากรรมนี้หลังจากที่เข้าค่ำคืน ผ่านวิธีนี้เสียงร้องของมนุษย์จะผสมกับเสียงนกและเสียงแมลง นำเสนอซิมโฟนีธรรมชาติที่งดงาม โค้ด QR บนผนังช่วยนำผู้ชมไปทำความเข้าใจข้อมูลและเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด และสร้างความคิดให้พวกเขาตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ
Devlin กล่าวว่า: “โครงการ ‘Come Home Again’ นี้旨在เรียกร้องความสนใจของสาธารณชนต่อสัตว์ที่มีอันตรายและเน้นความสำคัญของการปกป้องพวกเขา ผลงานนี้เชิญเรามาฟังบ้านเกิดและเมืองของเราอีกครั้ง ในฐานะเครือข่ายของสัตว์และวัฒนธรรม เราควรเรียนรู้จำชื่อเหล่านี้ไว้ ให้พวกเขายังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง”
ภาพที่มา: Max Alexander